วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บันทึกการเรียนครั้ง ที่ 7

วันที่  27 กรกฏาคม 2555


อาจารย์ให้นำเสนองาน  ที่ไปเล่านิทานแล้ววิเคราะห์พฤติกรรมเด็ก 
ซึ่งจากกการไปเล่านิทานครั้งนี้กลุ่มดิฉันได้อนุบาล  2  อายุ  4 - 5 ขวบ    น้องค่อนข้างมีพัฒนาการทางภาษาที่ดีสามารถตอบคำถามได้ทุก    สามารถตอบเป็นประโยคยาวได้และสามารถตั้งคำถามได้ด้วย


บรรยากาศในห้องเรียน   เพื่อน ๆตั้งใจดูการนำเสนอมาก

บันทึกความรู้   เด็กวัยนี้มีจินตนาการสร้างสรรค์ อยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบตัวเกี่ยวกับธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมว่าสิ่งนี้มาจากไหน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ เริ่มเข้าใจความแตกต่างระหว่างความจริงกับเรื่องสมมุติ นิทานที่เหมาะสมกับเด็กวัยนี้ควรเป็นนิทานที่เป็นเรื่องที่ยาวขึ้น แต่เข้าใจง่าย ส่งเสริมจินตนาการ และอิงความจริงอยู่บ้าง เนื้อเรื่องสนุกสนานน่าติดตาม มีภาพประกอบที่มีสีสรรสดใสสวยงาม มีตัวอักษรบรรยายเนื้อเรื่องไม่มากเกินไป และมีขนาดใหญ่พอสมควรใช้ภาษาง่ายๆ การอ่านนิทานให้เด็กฟัง พร้อมกับชี้ชวนให้เด็กดูภาพ ในหนังสือประกอบ จะเป็นการสร้างจินตนาการ สร้างสรรค์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของพลังเรียนรู้จากการอ่านหนังสือ
หากเด็กพบว่าเด็กชอบหนังสือเล่มใดเป็นพิเศษ ก็จะให้พ่อแม่อ่านซ้ำไปมาทุกวันไม่เบื่อ ดังนั้นพ่อแม่ควรอดทนเพื่อลูก เด็กบางคนจำข้อความในหนังสือได้ทุกคำ แม้ว่าจะมีคำบรรยายยาว ได้ทั้งเล่ม ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากต่อพัฒนาการด้านภาษาของเด็ก

ความคิดเห็น   ในการนำเสนอครั้งทำให้เพื่อน ๆ ได้ทราบถึงพัฒนาการของเด็กในช่วงอายุ  4-5 ขวบว่ามีพัฒนาการตรงหรือไม่

การนำไปประยุกต์ใช้    สามารถจัดประสบการณ์ทางภาษาให้ตรงกับพัฒนาการของเด็กได้อย่างเหมาะสม


วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เล่านิทานให้น้องอนุบาล ชั้นอนุบาล 2

วันที่ 23  กรกฏาคม 2555

กิจกรรมการเล่านิทานให้น้องอนุบาล
             การเล่านิทานครั้งนี้กลุ่มดิฉันได้ไปเล่าให้น้องอนุบาล 2 สาธิตราชภัฎจันทรเกษม  ซึ่งใช้สื่อเป็นนิทาน big book  เรื่อง มดน้อยอดออม  





จากกการไปเล่านิทานครั้งสามารถสังเกตพฤติกรรมของน้อง ๆ อนุบาล 2 ในเรื่องของภาษา  ซึ่งด้านภาษาน้อง ๆ มีพัฒนาการที่ดีมากสามารถตอบคำถามได้คล่องแคล่วและชัดเจน



ภาพกิจกรรมการเล่านิทาน






วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บันทึกการเรียนครั้งที่ 6

วันที่ 20 กรกฏาคม 2555


อาจารย์สั่งงานให้แบ่งกลุ่ม  กลุ่มละ 5-6 คน  แล้วให้ไปเล่านิทานให้น้องฟังแล้วดูการตอบคำถามของ  คำถามเช่น-  ตัวละครมีอะไรบ้าง
-  เด็ก ๆ อยากเป็นตัวละครตัวไหน

-  ตัวละครมีกี่ตัว

-  เพราะเหตุใดเด็ก ๆ ถึงอยากเป็นตัวละครตัวนั้น

สื่อในการเล่านิทานก็มี

- นิทาน big book
- นิทานเล่มเล็ก
- ซีดี

และนำเสนองานในสัปดาห์หน้าในรูปแบบ power point            


วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บันทึกการเรียนครั้งที่ 5

วันที่  13  กรกฏาคม 2555


อาจารย์ให้นำเสนองานพัฒนาการทางภาษาของเด็กปฐมวัยจากกการไปสัมภาษณ์
กลุ่มที่ 1  พัฒนาการของเด็กอายุ  4
กลุ่มที่ 2  พัฒนาการของเด็กอายุ  3
กลุ่มที่ 3  พัฒนาการของเด็กอายุ  2
กลุ่มที่ 4  พัฒนาการของเด็กอายุ  5
กลุ่มที่ 5  พัฒนาการของเด็กอายุ  6
กลุ่มที่ 6  พัฒนาการของเด็กอายุ  9-11




บรรยากาศการเรียน   ในห้องค่อนข้างอากาศเย็นเพราะว่าฝนตกและเพื่อน ๆ ก็ตั้งใจดูการนำเสนอเป็นอย่างมาก

บันทึกความรู้
พัฒนาการเด็กอายุ 3 - 4 ขวบ       ด็กวัยนี้ชอบแสดงความคิดเห็นและร้องขอสิ่งนั้นสิ่งนี้ รวมทั้งชอบบอกให้คนอื่นทำตามสิ่งที่ตัวต้องการ สามารถพูดคุยถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นและแต่งเรื่องขึ้นเองได้แล้ว หนูน้อยวัยนี้เป็นนักฟังนิทานที่ดี คือชอบฟังนิทาน และจะฟังอย่างตั้งอกตั้งใจเสียด้วย สามารถเล่านิทานซ้ำให้ฟังอีกครั้งได้ นอกจากนี้ หนูน้อยยังสนใจฟังเรื่องราวที่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังชอบฟังนิทานและเรื่องเล่าต่างๆ อยู่ 
เด็กวัยนี้เริ่มวาดรูปทรงกลมสี่เหลี่ยมได้แล้ว บางครั้งทำท่าเขียนหนังสือตามแบบที่เคยเห็นพวกผู้ใหญ่เขียนกัน 
ถึงแม้เด็กวัยนี้จะมีอายุ 3-4 ขวบแล้ว แต่เมื่อมีอารมณ์โกรธขึ้นมา หรืออยู่ในช่วงเขินอาย หนูน้อยวัยนี้จะมีการแสดงออกด้วยท่าทางที่กลับไปเป็นเด็กวัยเตาะแตะอีกครั้ง 

พัฒนากาีรเด็กอายุ  5-6 ขวบ       เด็กวัยนี้สามารถรับรู้ และวาด หรือเขียน รูปทรง ตัวอักษร และตัวเลขจำนวนต่างๆ ได้แล้ว สามารถจับอุปกรณ์สำหรับใช้เขียนหรือวาด อย่างดินสอ สีเทียน สีไม้ ปากกาเมจิคได้แล้ว ลูกวัยนี้เข้าใจแล้วว่าตัวหนังสือที่เขียนลงไปหมายถึงคำพูดที่เราใช้พูดสื่อสารกัน อีกทั้งยังสามารถบอกเล่าเรื่องต่างๆ ให้ผู้ใหญ่จดตามได้ เด็กวัยนี้เริ่มสนใจและสนุกกับการใช้คอมพิวเตอร์แล้วล่ะ

พัฒนาการเด็กอายุ  7-11 ขวบ  เด็กวัยนี้จะมีเพื่อนพวกวัยเดียวกัน การเล่นจะเล่นเป็นกลุ่ม พวกที่มีวุฒิภาวะสูงจะเริ่มแสดงความสนใจในเพศตรงข้าม สนใจกีฬาที่เป็นทีม กิจกรรมกลางแจ้ง สัตว์เลี้ยง งานอดิเรก หนังสือ การ์ตูน สนใจที่จะหารายได้ อาจกลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ และชอบการวิพากษ์วิจารณ์ เป็นคนที่เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ๆ จะเห็นว่าความคิดเห็นของหมู่คณะมีค่ามากกว่าผู้ใหญ่และจะมีความกังวล และเอาใจใส่อยู่กับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และต้องการความช่วยเหลือและให้ผู้อื่นเข้าใจและยอมรับในการเปลี่ยนแปลงของตนด้วย

ความคิดเห็น


ทำให้ได้ทราบถึงว่าพัฒนาการทางภาษาของเด็กจะตรงกับภาษาที่เด็กใช้หรือไม่


การนำไปประยุกต์ใช้


ทำให้เวลาจักกิจกรรมควรจะจัดให้เป็นไปในลักษณะใด

วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บันทึกการเรียนครั้งที่ 4

วันที่ 6 กรกฏาคม 2555

วันนี้ไม่มีการนำเสนอเพราะ  อาจารย์ให้กลับไปทำงานให้เรียบร้อยและรายงานในสัปดาห์หน้า  ดิฉันอยากนำเสนองานชิ้นนี้มาก  เป็นงานที่ภาคภูมิใจมาก